วันอังคารที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เปิดปากผู้ชาย 10 ประการ เบื้องหลังการ นอกใจ

   เปิดปากผู้ชาย 10 ประการ เบื้องหลังการ นอกใจ
     ปัญหาการ นอกใจ ของคู่สมรส เป็นเรื่องที่ใครก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่วันนี้เราจะมาเปิดเผยอีกหนึ่งความจริงที่น่าสนใจ ว่าเบื้องหลังการนอกใจนั้น มันมีอะไรแฝงอยู่บ้างมาฝากกันค่ะ



ความจริงข้อที่ 1 ผู้ชายส่วนมากยังคงรักภรรยาของตนอยู่แม้จะนอกใจไปแล้ว
การนอกใจของผู้ชายไม่ได้เกิดขึ้น เพราะพวกเขาไม่รักภรรยาของตนเองอีกแล้ว แต่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเมื่อพวกผู้ชายไม่พึงพอใจสภาพที่เป็นอยู่ในบ้าน เช่น เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยๆ เหนื่อยกับการเลี้ยงลูก รู้สึกว่าตนเองไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ ฯลฯ เมื่อมีใครบางคนเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายนี้ไปได้ ก็เลยทำให้เขาพลาดพลั้งนอกใจภรรยาไปนั่นเอง แนวทางป้องกันคือ สามีภรรยาต้องหาเวลาดีๆ ร่วมกันบ้าง รวมถึงเวลาดีๆ ในช่วงค่ำคืนด้วย คนสองคนต้องหาโอกาสคุยกันถึงเรื่องดีๆ อนาคตดีๆ ที่จะสร้างร่วมกัน ฯลฯ เพื่อที่ว่าคนของเราจะได้มีเป้าหมาย ไม่ต้องไปสร้างเป้าหมายนี้กับคนอื่น

ความจริงข้อที่ 2 ผู้หญิงที่เขาปันใจให้มักเป็นคนใกล้ตัว
ภรรยาควรทราบไว้ว่า เพื่อนสมัยเด็ก เพื่อนสมัยเรียน แฟนเก่า น้องที่ทำงาน เด็กฝึกงาน คือ ผู้ต้องสงสัยอันดับต้นๆ ไม่ใช่สาวในผับในบาร์แต่อย่างใด เพราะคนที่จะเข้ามาสร้างความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับสามีของคุณได้ อย่างน้อยก็ต้องมีความสัมพันธ์ดีๆ กันมาก่อน เช่น อาจเคยช่วยเหลือกันมาสมัยเรียน หรือสมัยทำงาน ทางที่ดีคือ พยายามทำให้สามีรู้สึกว่าคุณสำคัญต่อเขา และมีดีเหนือกว่าเพื่อนร่วมงานของเขาให้ได้



ความจริงข้อที่ 3 การนอกใจอาจแค่คลายเครียด
การนอกใจภรรยาที่เกิดขึ้นกับผู้ชายนั้น ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาไม่รู้จะแก้ไขความสัมพันธ์ในบ้านที่มันย่ำแย่อย่างไร ดังนั้น เขาจึงออกไปหา “บางสิ่งบางอย่าง” จากข้างนอก เผื่อว่า มันจะสามารถทดแทนสิ่งที่ครอบครัวไม่สามารถให้กับเขาได้นั่นเอง

ความจริงข้อที่ 4 ผู้ชายก็รู้สึกผิดที่นอกใจภรรยา
ภรรยาไม่ได้ร้องไห้น้ำตานอง เสียใจแต่เพียงฝ่ายเดียว ผู้ชายเองก็รู้สึกผิดกับการกระทำของตนเองเช่นกัน

ความจริงข้อที่ 5 คนนอกใจภรรยามักจะดีกับภรรยาเป็นพิเศษ
ดีเป็นพิเศษในที่นี้เช่น ขยันทำการบ้านบ่อยๆ ซึ่งภรรยาที่ใกล้ชิดกับสามีมักสังเกตความผิดปกตินี้กันได้แทบทุกคน

ความจริงข้อที่ 6 ผู้หญิงก็นอกใจไม่แพ้ผู้ชาย
การศึกษาของมหาวิทยาลัยอินเดียนา ระบุว่า ทั้งผู้ชายและผู้หญิงต่างก็พบเจอปัญหาการนอกใจได้พอ ๆ กัน แต่เหตุผลที่ใช้ในการนอกใจนั้นแตกต่างกัน เพราะผู้หญิงที่นอกใจนั้นมักเป็นเรื่องของการขาดที่พึ่งทางอารมณ์ และการไม่ได้รับความพึงพอใจในชีวิตคู่ แต่ผู้ชายมักเกี่ยวกับความต้องการทางเพศเป็นหลัก

ความจริงข้อที่ 7 ภรรยามักจับพิรุธสามีได้เสมอ
ไม่จำเป็นว่าสามีเป็นคนดัง หรือคนธรรมดาทั่วไปแล้วจะมีผลต่อการจับพิรุธของภรรยา เพราะภรรยาส่วนมากมักมีเซนส์เรื่องนี้กันอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นเรดาร์กันเลยก็ว่าได้

ความจริงข้อที่ 8 การนอกใจมักจบลงด้วยการคืนดี
แม้จะไม่เสมอไป แต่โดยมาก การนอกใจก็ทำให้หลายคู่หันกลับมาคืนดี รวมถึงแก้ไขข้อบกพร่องของตนเองเพื่อรักษาครอบครัวให้คงอยู่ได้ ผู้ชายเอง หลังจากหันไปสนใจกับความสัมพันธ์ใหม่ (ที่น่าตื่นเต้นกว่า) สักพักก็จะเริ่มรู้สึกตัวว่า ใครคือคนที่เขาอยากอยู่ด้วยมากที่สุด (ซึ่งมักเป็นภรรยา ไม่ใช่ชู้รักใหม่แต่อย่างใด) และเริ่มรู้สึกว่า ผู้หญิงที่เขาปันใจให้นั้น จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ดีหรือสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง

ความจริงข้อที่ 9 แม้จะกลับมาคืนดีกับภรรยาแล้ว ผู้ชายอาจยังไม่ลืมผู้หญิงคนนั้น
น่าเศร้าที่ข้อนี้ก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับด้วยเช่นกัน เพราะในการเผลอใจมีอะไรๆ กับหญิงอื่นนั้นอาจมีบางสิ่งบางอย่างที่เขาลืมไม่ลงซ่อนอยู่ นั่นจึงทำให้เขาอาจย้อนนึกถึงได้ (แม้เขาจะกลับมาคืนดีกับภรรยาแล้วก็ตาม)

ความจริงข้อที่ 10 คนที่นอกใจจะสำนึกถึงความผิดที่ทำลงไปเสมอ
เมื่อได้กลับมาคืนดีกัน และสร้างครอบครัวใหม่อีกครั้งหลังการนอกใจนั้น สามีทุกคนรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป เพราะเขาได้สร้างบาดแผลครั้งใหญ่กับภรรยาและลูกๆ ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานในการเยียวยาให้ดีขึ้น และสิ่งนั้นคือผลที่ผู้ชายรักสนุกทั้งหลายต้องยอมรับมันให้ได้


ทางที่ดี สำหรับใครก็ตามที่กำลังจะมีประเด็นชู้สาวเข้ามาในชีวิต ก็กล้าหาญกับชีวิตสักหน่อย ยอมรับสักนิดว่าตนเองมีภรรยาและลูกแล้ว ไม่ต้องอ้างปัญหาในครอบครัว เพราะคนที่มีครอบครัวคนไหนๆ ก็ต้องเจอปัญหาเสมอ รวมถึงสาวๆ ถ้ารักจะส่ง SMS หาคนที่มีภรรยาแล้วก็ต้องบอกตัวเองให้รักษาหน้า รักษาชื่อเสียงครอบครัววงศ์ตระกูลเอาไว้บ้าง ดีกว่าปล่อยให้ภรรยาเขาเก็บหลักฐานฟ้องเรียกค่าเสียหายให้อับอายนะคะ

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ต่อไม้เจนก้ามันขึ้นไป ใครทำหล่นต้องแก้ผ้าออกทีละชิ้น สุดท้ายก็โดนเย็ดสิ



ถือว่าเป็นเกมส์ที่น่าเล่นกับสาวๆมาก ต่อไม้เจนก้าขึ้นไปใครทำหล่นต้องแก้ผ้าออกทีละชิ้น งานนี้ถ้าทำให้ได้แก้ผ้าออกได้มากที่สุดทั้งคู่ สุดท้ายก็ต้องได้เย็ดกันแน่นอน ลองมาดูเรื่องของหนุ่มสาวคู่นี้กันเถอะว่าเขาจะได้เย็ดกันไหม นมผู้หญิงสวยมากน่าดูดสุดๆ

พ่อไม่โอเค! 11 พฤติกรรมไม่ผ่านแน่นอนถ้ามีผู้ชายแบบนี้มา จีบลูกสาว

สาวๆบางคน อาจจะไม่เคยปรึกษาความรักกับคนใกล้ตัวเช่น ” พ่อ ” ใช่ไหมละ ก็เพราะพ่อเป็นทั้งผู้ชาย ไม่เข้าอกเข้าใจเราได้เท่าแม่หรือเพื่อนฝูง แต่ลึกๆ แล้วนั้น พ่อน่ะรู้ใจคุณดียิ่งกว่าใคร และแกเคยผ่านพฤติกรรมต่างๆของผู้ชายตอนวัยรุ่นมาหมดแล้ว เพราะฉะนั้นถ้ามีผู้ชายเข้ามา จีบลูกสาว ล่ะก็ คนที่จะตัดสินได้ดีนอกจากคุณ ก็คือ พ่อ นั่นเอง ฟังสัญญาณคู่เดทห่วยๆเหล่านี้จากพ่อ รับรองได้แฟนหนุ่มดีมาครอบครองแน่นอน




1.ผู้ชายที่ไม่ชวนเธอออกเดท
สมัยนี้การคุยกันมันเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่ปลายนิ้ว แต่การเชิญผู้หญิงออกมาเจอกันนั้นเป็นการให้เกียรติและเป็นการแสดงความจริง ใจต่อกัน ถ้าคุณผู้ชายที่มาจีบไม่กล้าพอจะชวนคุณไปไหน ก็ปล่อยให้อยู่ในโลกออนไลน์ต่อไปเถอะ

2.ผู้ชายที่ไม่พยายาม
การเดทกันอาจเป็นเรื่องใหญ่ สำหรับผู้ชายบางคน ความพยายามนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเขาไม่เปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องที่ควรพยายามเพื่อทำให้ชนะใจคุณได้ เขาก็ไม่คู่ควรเลยสักนิด

3.แต่งตัวแย่
การเดทกันครั้งแรก ภายนอกสำคัญกว่าสิ่งใด ถ้าปล่อยหนวดเคราเฟิ้ม เสื้อไม่รีด ไม่แคร์เวิร์ลอะไรเลย ก็ไฟแดงแน่นอน

4. ไม่กล้าตัดสินใจ
บุคลิกที่ดีของผู้ชายก็คือ ความเป็นผู้นำ นั่นแสดงว่าคุณสามารถทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัวได้ ลองสังเกตดูว่า ผู้ชายคนนี้พอจะกล้าตัดสินใจและเป็นพ่อของลูกคุณได้หรือเปล่า

5.สกปรก
ตั้งแต่เด็กจนโต ความสะอาดน่าจะเป็นเรื่องที่พ่อแม่ของเขาน่าจะสั่งสอนและอบรมมา อย่าได้มีข้ออ้างในการไม่อาบน้ำ แปรงฟัน เลยนะ

6.ไม่ให้เกียรติผู้หญิง
วิถีของคนไทย เรื่องการให้เกียรติของผู้หญิงอย่างไรก็ยังสำคัญอยู่วันยันค่ำ แค่เปิดประตูให้ ให้ผู้หญิงเดินก่อน นั้น ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าจะให้ไปวางอนาคตยังไง

7.ขี้เก๊กเกินเหตุ
ถ้าเดทแรกเขาสามารถเสียงหัวเราะให้ลูกได้อย่างบริสุทธิ์ใจ ไม่ทะนงตัวมากไปนัก ก็เปิดใจคบเขาได้เลย

8.ทำนิสัยไม่ดีใส่
นิสัยแย่ๆ การกระทำแย่ๆ นั้นมีผลต่อเดทครั้งที่สองในทันที เพราะฉะนั้น ถ้าบนโต๊ะอาหารเขาทำตัวไม่ดีใส่ ไม่เจ้นท์พอที่จะดูแลลูก พูดจาร้ายๆใส่พนักงาน ก็ปล่อยเขาไปตามทางได้เลย

9.ไม่กล้าแสดงความรัก
จริงๆแล้วไม่มีพ่อคนไหนอยากให้ทำหรอก แต่เมื่อต้องคบกันแล้ว ถ้าผู้ชายคนนั้นไม่เคยแสดงออกถึงความรัก เช่น จับมือ หอมแก้ม จุ้บ ผู้หญิงก็คงไม่ชอบผู้ชายเจี๋ยมขนาดนั้นหรอก

10.มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ถุงยางอนามัย เขามีไหม เขาพกไว้หรือเปล่า เขาให้ความสำคัญกับลูกมากเพียงพอไหม

11.รีบพาไปเจอพ่อแม่เกินเหตุ

ไม่ว่าจะคบกันนานแค่ไหน แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ว่าจะลงเอยกับคนคนนี้ อย่าเพิ่งตัดสินใจพามาเจอพ่อแม่เป็นอันขาด

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2558

มาถูกทางแล้ว! 10 สิ่งที่บอกว่าคุณทำชีวิตใน ช่วงอายุ 20 ปี ได้ดีแล้วล่ะ

ชีวิตเมื่อก้าวเข้าสู่วัยเลขสาม ก็อาจทำให้คุณคิดอยู่เสมอว่า สิ่งที่เราทำมาตลอดในช่วงวัยรุ่นนั้น ดีแล้วหรือยังนะ อนาคตเราจะดีขึ้นมั้ยนะ เรื่องอนาคตนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจุบันที่คุณทำ และปัจจุบันก็ขึ้นอยู่กับอดีตที่คุณเคยทำมา บางครั้งคุณก็เกิดคำถามได้บ่อยครั้งว่าชีวิตฉันดีแล้วหรือเปล่า ประสบความสำเร็จหรือไม่นะ ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในชีวิตคุณแล้วล่ะก็ ขอคอนเฟิร์มว่าสิ่งที่คุณทำมาตลอด 20 ปี นั้นเวิร์คแล้วล่ะ




1.เรียนจบ
การศึกษายังไงก็ยังสำคัญอยู่ดี ถ้าทุกวันนี้คุณมีดีกรี มีการศึกษาที่สามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้ นั่นก็ถือว่าคุณมีใบเบิกทางในการทำมาหากินแล้วล่ะ 19% ของเศรษฐีน่ะ ล้วนจบวิทยาลัยกันทั้งนั้น

2.มีงานทำ
คุณเริ่มสมัครงาน เข้ารับการสัมภาษณ์ และตอนนี้ก็เป็นพนักงานในที่ใดที่หนึ่งอยู่ ถึงแม้การทำงานจะทำให้คุณมีเงินเก็บเพียงเล็กน้อย หรือมีรายได้น้อยก็ตาม แต่คุณก็สามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างไม่เดือดร้อนใครแล้ว

3.รับผิดชอบเรื่องบิล ค่าใช้จ่ายได้
ค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เนต ค่าไฟ ค่าน้ำ จากแต่ก่อนที่พ่อกับแม่เป็นคนจ่าย ตอนนี้คุณสามารถรับผิดชอบได้บ้างแล้ว

4.ไม่ได้อาศัยอยู่กับที่บ้านแล้ว
คุณไม่ต้องรีบกลับบ้านเพราะเดี๋ยวพ่อแม่ ดุอีกแล้ว ตอนนี้คุณสามารถรับผิดชอบชีวิตและรู้ผิดชอบชั่วดีได้ด้วยตนเอง และไม่ต้องบอกใครว่าคุณต้องกลับบ้านกี่โมง คุณไปไหน แต่คุณรู้ว่าพรุ่งนี้คุณไปทำงานไม่สายก็เพียงพอ

5.เลิกกินมาม่าเพื่อประทังชีวิตปลายเดือน
จากที่เคยต้องพึ่งมาม่าปลายเดือนเป็น ประจำ จากนี้ก็ทำอาหารกินเอง รู้จักหาของราคาภูกในซุปเปอร์มาร์เก็ตเองได้แล้ว ทั้งประหยัดทั้งได้สารอาหารอีกด้วย

6.มีเงินเก็บ
คุณเริ่มมีเงินที่จะใช้ยามฉุกเฉินเช่น ตอนเจ็บป่วย  หรือมีเหลือใช้ไปเที่ยวได้ หรือซื้อของที่คุณอยากได้ในวัยเด็ก

7.เริ่มมีความฝันระยะยาว
เช่น อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง มีกิจการเป็นของตัวเอง และเริ่มที่จะสร้างรากฐานให้กับมันได้แล้ว

8.ไปเที่ยวได้ตามที่ใจอยาก
ขับรถไปทะเล กินข้าวร้านอร่อยๆ ดูคอนเสิร์ตดีๆ หรือนั่งเครื่องบินไปเที่ยวประจำปีได้ หิวตอนตีหนึ่ง หรืออยากแฮงเอ้าท์กับเพื่อน คุณก็ทำได้เท่าที่ใจอยากโดยไม่กระเทือนกระเป๋าเงินเท่าไหร่นัก

9.ไปหาหมอได้
อาการเจ็บป่วยของคุณ คุณสามารถดีลกับมันและมีเงินรักษาตัวเองได้ ทั้งยังไปตามหมอนัดได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่อีกต่อไป

10.มีประสบการณ์ชีวิต

ประสบการณ์มักเกิดจาก การตัดสินใจที่ผิดๆ หรือการกระทำที่เคยพลาดมาทั้งนั้น เช่น ความผิดพลาดจากม.ปลายที่ไม่ยอมตั้งใจเรียน อาจส่งผลให้คุณขยันขึ้นเมื่อเข้ามหาวิทยาลัย ความผิดพลาดต่างๆนั้นล้วนเป็นบันไดให้คุณได้เรียนรู้และได้ประสบการณ์เจ๋งๆ ที่เล่าให้ใครฟังได้ อ้อ คุณรู้สึกฉลาดขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย นั่นล่ะเรียกว่าคุณมีประสบการณ์แล้วล่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

31 สัญญาณพอได้แล้ว รักของคุณใกล้จะถึงทางตันแล้ว

ช่วงเวลาที่คนสองคนจะ เลิกกัน นั้น ยังไงก็ต้องมีสัญญาณบอก อยู่ที่ว่าคุณจะสังเกตและรับรู้กับสัญญาณหล่านั้นหรือไม่ เรามีสัญญาณอันตราย 31 ข้อ แก่สาวๆที่รู้สึกว่าความรักเริ่มจะไม่สวยงามเหมือนเก่า ได้ลองมาทบทวนและคิดให้ได้ว่าควรจะมีทางออกอย่างไรให้ได้สักที เพราะความรักของคุณอาจจะถึงทางตันแล้วล่ะค่ะ 



  • 1.เขาเริ่มไม่มีเวลา และเริ่มมีข้ออ้างต่างๆนานา  ไม่โทรหาบ่อยเหมือนเก่า มีข้ออ้างในการมาเจอ และมีเซ็กซ์ในแบบที่ “ต้องมี”
  • 2. เมื่อคุณไม่รู้สึกตื่นเต้นอีกต่อไป เมื่อได้เจอหน้าเขา
  • 3. คุณไม่เจอเขา ไม่รู้เรื่องของเขามาเป็นเวลากว่า 2 อาทิตย์
  • 4.เมื่ออีกคนพยายามจะควบคุมอีกคนหนึ่ง แทนที่จะคุยกันอย่างเปิดอก
  • 5. เมื่อเขาไม่โทรกลับ (บ่อยๆ)
  • 6.เมื่อทะเลาะกันแล้วคำพูดที่คุณไม่คิดว่าจะได้ยินจากคนเป็นแฟน หลุดออกมา
  • 7.เมื่ออีกฝ่ายพูดจาไม่ให้เกียรติ การสื่อสารไม่เป็นผลอีกต่อไป
  • 8.เมื่อเขาเริ่มรำคาญ เมื่อคุณแค่จะโทรไปกู๊ดไนท์ก่อนอนเท่านั้นเอง
  • 9.เมื่อเขาปฏิเสธที่จะถกเรื่องต่างๆ หรือแม้แต่ฟังคุณ ทุกอย่างดูเป็นรูทีน สายตาที่มองกันไม่รักกันเหมือนเคย
  • 10.เมื่อคุณต้องรอโทรศัพท์จากเขาและคอยถามเขาเสมอว่า คุณจะเจอเขาได้เมื่อไหร่ และคุณต้องรอเป็นฝ่ายรอเขาเสมอ
  • 11.เมื่อคุณไม่รู้สึกไว้วางใจเขาอีกต่อไป
  • 12.เมื่อคุณมีแต่คำถามว่า เมื่อไหร่เขาจะโทรกลับ
  • 13.เมื่อทุ่มเทไปเต็มร้อยแต่ไม่ได้อะไรกลับคืนเลย และสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการทะเลาะกัน
  • 14.เมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือจากเขา แต่เขากลับปล่อยให้คนอื่นมาดูแลคุณแทน
  • 15.เมื่อเขาอยู่ในห้องเดิมมาหลายชั่วโมง แต่เมื่อคุณเดินเข้าไป เขากลับเดินออกมา
  • 16.เมื่อเขาไม่ให้คุณดูโทรศัพท์เขาอีกต่อไป
  • 17.เมื่อรู้สึกว่ามันใกล้จะหมดความอดทนแล้ว
  • 18.ในหนึ่งสัปดาห์คุยกันแค่ 15 นาที
  • 19.เมื่อคุณไม่สนอีกต่อไปว่าเขาจะคิดอะไร รู้สึกอะไร
  • 20.เมื่อคุณอยากเจอเพื่อนมากกว่าเจอเขา
  • 21.เมื่อการจูบระหว่างมีเซ็กซ์มันเริ่มจะ ธรรมดา ถ้าผู้ชายเลิกจูบคุณนั้นมีแค่สองเหตุผล คือ คุณปากเหม็น กับเขาไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นกับคุณแล้ว
  • 22.เมื่อการมีเซ็กซ์ไม่หวือหวาหรือมีความสุขอีกต่อไป
  • 23.เมื่อผู้ชายคนอื่นเริ่มดึงความสนใจจากคุณได้
  • 24.ขาดความใกล้ชิด
  • 25.ไม่รู้สึกอยากใกล้ อยากกอด อยากจูบ อีกแล้ว
  • 26.เริ่มตั้งคำถามจุกจิก จนทำให้อีกฝ่ายเริ่มรำคาญ
  • 27.เมื่อคุณผู้ชายเริ่มละเลยตัวเอง ทำตัวธรรมดา สกปรก หลีกเลี่ยงการตอบคำถามต่างๆ และ ไม่ค่อยสนใจคุณ ไม่มองหน้าคุณเหมือก่อน
  • 28.เมื่อเขาเริ่มหาเรื่องทะเลาะ และทุกเรื่องก็กลายเป็นปัญหาของคุณสองคนได้
  • 29.เรื่องสนุกในอดีตที่เคยมี ปัจจุบันไม่สนุกเหมือนเดิมอีกแล้ว
  • 30. โมเม้นท์การจูบเป็นเรื่องไม่น่าพิสมัยของคุณอีกต่อไป
  • 31.เมื่อไม่กล้าถามว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ แต่ก็ได้แต่ตอบตัวเองในใจว่าเขาคงไม่ว่างหรอก
  • 31. ไม่เป็นตัวเองเมื่อเจอกัน และต้อง “พยายาม” ในการเข้าหากัน



สัญญาณบางอย่างก็อาจจะบอกกับเราได้เหมือน กันนะ ว่าเราควรพอแล้วล่ะ กับความรักครั้งนี้ ถ้าเช็คดูแล้วคุณมีความรู้สึกข้างต้นมากกว่า 10 ข้อล่ะก็ อาจจะต้องถึงเวลาปล่อยเขาไป และ ปล่อยตัวเราไปด้วยเช่นกันแล้วล่ะ